วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ปัญหาของคนเป็นสิว


โครงงาน
ปัญหาของคนเป็นสิว
ผู้ทำโครงงาน

1. นางสาว  ปิยะธิดา   ซ้ายสนาม  เลขที่ 17 ม.3/1
2. นางสาว  อภิญญา  สมฤาแสน  เลขที่ 20 ม.3/1
3. นางสาว พรพิมล พาลเหนือ   เลขที่ 24 ม.3/1
4. นางสาว  วชุตา  นุสลศาลา  เลขที่ 26  ม.3/1
5. นางสาว สุนารี  ศรีมงคล เลขที่ 27
6. เด็กหญิง สุภาวดี เสริมแสง  เลขที่ 28  ม.3/1
7. นางสาวสุวนันท์ ทองยุ้น  เลขที่ 29  ม.3/1
คุณครู  ชนิสรา  สดมพฤกษ์
ครูประจำวิชา
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์  ง.23102
ประจำปีการศึกษาที่ 2/2557
โรงเรียน ศรีสมเด็จพิมพ์พัฒนาวิทยา  จ.ร้อยเอ็ด

บทคัดย่อ
ปัญหาการเกิดสิว นี้เป็นโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา  ลักษณะเด่นของโครงงานนี้คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา  ซึ่งผู้จัดทำจะใช้เว็บไซต์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา เรื่องปัญหาการเกิดสิว เป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลาย  โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร  การแสดงความคิดเห็น  หรือข่าปัจจุบัน

สารบัญ
                                                       บทที่ 1  บทนำ
      บทที่ 2  เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
                                                                2.1 ปัญหาของคนเป็นสิวและวิธีแก้ไข
                                                        บทที่ 3 วิธีดำเนินการ
                                                        บทที่ 4 ผลการดำเนินการ
                                                        บทที่ 5 สรุปและข้อเสนอแนะ
                                                        ภาคผนวก
                                                 บทที่ 1
                                                 บทนำ
1.              แนวคิดที่มาของโครงงาน
เทคโนโลยีทางการสื่อสาร เทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันนั้น เริ่มมีบทบาทในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ และมีส่วนร่วมช่วยสนับสนุนสื่อทางด้านการศึกษาอีกด้วยโดยสื่อสันใหม่นิยมเป็น สื่อการเรียนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพราะสะดวกรวดเร็วเข้าถึงง่าย
ปัญหาการเกิดสิว
         พอพูดถึงเรื่องสิว หลายๆคนถึงกับทำหน้าเครียดและกุมขมับทันที จริงๆแล้วเรามักจะเป็นสิวเยอะๆในช่วงวัยรุ่น พอโตขึ้นสิวจะคิอยๆลดไปเอง ถ้างั้นเรามาดูกันดีกว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวในวัยรุ่น เมื่อเราทราบสาเหตุเราก็จะสามารถหาทางแก้ได้อย่างตรงจุดและได้ผล
ดังนั้นกลุ่มของข้าพเจ้าจึงคิดทำโครงงานเกี่ยวกับปีญหาของคนเป็นสิว โดยได้รวบรวมข้อมูลเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับสิว เพื่อเป็นประโยชน์ในการรักษาสิวของคนเป็นสิว
บทที่2
เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
ปัญหาของคนเป็นสิว
1.     ความหมายของสิว
สิว หมายถึง โรคผิวหนังที่พบบ่อยของมนุษย์ มีลักษณะของเซโบเรีย (ผิวสีแดงเกล็ด) คอมีโดน (สิวหัวดำและสิวหัวขาว), ปาปูเลส (สิวเสี้ยน), โนดูเลส (สิวขนาดใหญ่), สิวเม็ดเล็ก และอาจทำให้เกิดแผลเป็น
2.            สาเหตุของการเป็นสิว
1.ฮอร์โมน สิวในวัยรุ่นส่วนมากมักเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเมื่อร่างกายเริ่มสร้างฮอร์โมน”แอนโดรเจน” ในช่วงอายุ 12-14 ปี จึงเป็นช่วงที่วัยรุ่นจะเป็นสิวมากที่สุด สาวๆบางคนจะโดนสิวบุกช่วงก่อนประจำเดือนมา 1-2 สัปดาห์ เป็นเพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง
2.กรรมพันธุ์ กรรมพันธุ์ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดสิว ถ้าคุณพ่อคุณม่ของเราเป็นคนที่สิวขึ้นเยอะเราก็มีโอกาสที่จะมีสิวเยอะเช่นกัน แต่ยังไงก็ตามกรรมพันธุ์เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ถ้าเราดุแลรักษาความสะอาดมากเพียงพอ เราจะสามารถเอาชนะสิวได้
3.ความสะอาด ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว โดยเฉพาะสาวๆที่ละเลยการล้างหน้าให้สะอาด ยิ่งสาวๆคนไหนที่ทาครีมกันแดดและแต่งหน้า ก่อนล้างหน้าทุกครั้งอย่าลืมใช้ Make Up Remover เช็ดเครื่องสำอางและครีมกันแดดออกไปก่อน แล้วค่อยล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า เพราะถ้าเราไม่ล้างเครื่องสำอางให้สะอาด คราบความสกปรกจะไปอุดตันอยู่ในรูขุมขนและทำให้เกิดสิวได้นั่นเอง
4.ความเครียด/พักผ่อนน้อย วัยรุ่นแบบเรามีสารพัดเรื่องให้ต้องกังวลแถมยังมีเวลานอนไม่พอเพราะต้องปันการบ้านจนถึงดึกดื่น สองอย่างนี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว ร่างกายของเราต้องการพักผ่อน สิวของเราก็ต้องการฟักผ่อนเช่นเดียวกัน
5.แพ้ครีมและเครื่องสำอาง สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการดูแลผิวเราก็ต้องดูว่าสภาพผิวของเราเป็นแบบไหน ผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะสาวผิวแพ้ง่ายจำเป็นต้องเลิกเครื่องสำอาง และครีมบำรุงผิวสูตรที่มีผสมแอลกอฮอร์ และต้องเลือกผลิตภัณฑ์ต่างๆอย่างระมัดระวัง สาวผิวมันเองก็ต้องหลีกเลี่ยงการใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันเพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันและเป็นสิวได้เหมือนกัน
6.ความสะอาดของอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ถึงแม้ว่าเราจะล้างหน้าและดูแลเรื่องความสะอาดบนผิวหน้าของเราแล้วแต่อาจจะยังไม่พอ เพราะอุปกรณ์ที่เราใช้ในการแต่งหน้าก็สำคัญเหมือนกัน พวกแปรงแต่งหน้า พัฟแป้ง แปรงทาลิป แปรงบรัชออน สาวๆควรนำอุปกรณืเหล่านี้มาทำความสะอาดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง อย่าปล่อยให้หมักหมมไว้นานเพราะมันเต็มไปด้วยแบคทีเรียและเชื้อโรค ทำให้เกิดสิวขึ้นได้



มาหยุดยั้งสิวกันดีกว่า
*อย่าแกะสิว! สาวๆหลายคนชอบแกะสิวเป็นชีวิตจิตใจ ยิ่งเม็ดใหญ่  ยิ่งแกะมันมือ แกะไปแกะมาเลือดออก สิวอักเสบมากกว่าเดิม แถมยังทิ้งรอยดำไว้ดูต่างหน้าอีกต่างหาก
*สาวๆที่เป็นสิวอุดตัน ขอแนะนำว่าให้งดใช้รองพื้นและการแต่งหน้าเยอะๆ ไปซักพักก่อน เพราะถ้าเกิดเราล้างหน้าล้างเครื่องสำอางไม่สะอาดจะยิ่งทำให้สิวขึ้น แต่ถ้าทนพวกรอยสิวไม่ได้จริงๆ ขอแนะนำว่าให้ใช้คอนซีลเลอร์แต้มบางๆตรงรอยสิวก็พอ

                              
*ความสะอาดต้องมาอันดับหนึ่ง สาวๆควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง สาวๆคนไหนทาครีมกันแดด/รองพื้น/แต่งหน้า อย่าลืมใช้ Make Up Remover ล้างเครื่องสำอางออกไปให้สะอาดก่อนเพื่อช่วยป้องกันการเกิดสิว
*ยาแต้มสิวเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ช่วยได้ผลเยอะในยามยาก ขอแนะนำว่าให้ใช้ยาแต้มสิวลงบนบริเวณหัวสิวที่เพิ่งขึ้นวันละ 2 ครั้งหลังอาบน้ำ สิวจะแห้งและหายเร็วขึ้น ที่สำคัญคืออย่าแกะสิว ถ้าทายาแต้มสิวแล้วรอให้สิวแห้ง สิวจะหลุดออกไปอย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งรอยดำไว้
*ถ้าไม่อยากเป็นสิวต้องไม่นอนดึก ถึงแม้สาวๆจะอยู่ในช่วงวัยเรียนทำให้หลายคนต้องอยู่ทำการบ้านจนดึกดื่นจนสิวถามหาและเลี่ยงไม่ได้จริงๆ สาวๆก็ต้องพยายามหาวิธีอื่นทดแทนกันไป อย่างดื่มน้ำให้เยอะๆรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่แกะสิว ห้ามเครียด ทาครีมบำรุงผิว และรักษาความสะอาดของผิวแทน
*ถ้าสงสัยว่าตัวเองแพ้ครีม/เครื่องสำอาง/ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดตัวไหน ให้หยุดใช้ทันที แต่ถ้าสิวยังคงขึ้นอยู่และมีการแสบร้อนร่วมด้วย ให้รีบไปพบแพทย์ดีกว่า


กินอะไรทำให้เป็นสิว
ไอศกรีม/ช็อคโกแลต/ของหวาน
ของหวานมีอินซูลินซึ่งเป็นเหมือน Growth Hormones ไปกระตุ้น Sebum  ทำให้ผิวมันและเกิดสิวนั่นเอง
        
                       
นมวัว
นมวัวเป็นโปรตีนที่ย่อยยาก ทำให้ระบบขับถ่ายไม่ดีและทำให้เกิดสิว


ของทอด/ของมัน
ของทอดและของมันจะทำให้ผิวมันมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว


แอลกอฮอลร์
บรรดาเหล้า เบียร์ และไวน์ล้วนแต่เป็นเสมือนสารพิษเป็นสาเหตุที่ทำให้สิวแวะเวียนมาหาเรา



สมุนไพรรักษาสิว
1.ว่านหางจระเข้
วิธีใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผิวเพื่อผิวพรรณที่เนียนสวยอยู่เสมอ ทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
ใช้น้ำว่านหางจระเข้ล้างหน้าขจัดความกร้านเพื่อผิวเนียนสวย
การใช้น้ำว่านหางจระเข้ล้างหน้า ให้ใส่เพียง 2-3 หยดก็พอถ้าเป็นในช่วงเร่งรีบอาจบีบเอาน้ำจากใบว่านสดเลยก็ได้ เมื่อผสมน้ำว่านหางจระเข้กับโฟมล้างหน้าแล้ว ให้ถูจนเป็นฟอง แล้วเริ่มล้างหน้าได้ สำหรับผู้มีผิวมันและมีเหงื่อมาก ในฤดูร้อน อาจใช้แปรงช่วยล้างหน้าด้วยก็ได้
ใช้เนื้อวุ้นของว่านหางจระเข้ช่วยสมานผิวหลังล้างหน้า
ล้างว่านหางจระเข้สะอาด ฝานเอาหนามแหลมออก แล้วค่อยปลอกเปลือก เอาแต่เนื้อวุ้นข้างในไว้ใช้ ล้างหน้าให้สะอาดแล้วนำเนื้อวุ้นมาทาใบหน้า เพื่อบำรุงผิวหน้า ทาไปเรื่อย ๆ จนกว่าเนื้อวุ้นจะไม่มีน้ำ เหลือแต่เส้นใย ก็ให้หยุดทา แล้วรีบล้างออกโดยเร็ว นอกจากนี้ยังอาจใช้กับโลชั่นที่ใช้เป็นประจำ โดยหยดน้ำว่านหางจระเข้สัก 2-3 หยดลงในโลชั่นก็เป็นอันใช้ได้
ใช้เนื้อวุ่นว่านหางจระเข้รักษาสิวและตุ่มพอง
ว่านหางจระเข้จะช่วยลดการอักเสบของสิวและสลายพิษของเชื้อโรค อีกทั้งเมื่อสิวหายก็จะไม่เกิดเป็นรอยสิวขึ้นด้วย ใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ทาที่หัวสิวหรือจะตัดเนื้อวุ้นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปิดไว้ที่หัวสิวแล้วจึงใช้ผ้าก๊อซปิดทับไว้ก่อนเข้านอนก่อนก็ได ้
ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยสมานผิว และบำรุงรักษาผิว ช่วยรักษาน้ำและไขมันใต้ผิวให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ ขจัดการแตกแห้งของผิว ขจัดสิ่งสกปรก ไขมันและเซลล์ที่ตายแล้วบนผิว ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลยิ่งขึ้น ใบว่านหางจระเข้สด ๆ ใบจะมีสรรพคุณเป็นได้ทั้งเครื่องสำอางประเภทโลชั่นและน้ำนม ใช้ได้ทั้งผิวแห้งและผิวมัน
นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังมีสรรพคุณช่วยให้ผิวหนังหดตัว จึงช่วยป้องกันมิให้ผิวอักเสบและป้องกันการทำลายจากรังสีอุลตร้ าไวโอเลต รวมทั้งฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย ทั้งยังมีข้อดีอีกหลาย ๆ อย่าง เช่น ช่วยให้ผิวดูเนียนสวยอ่อนวัย กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ขจัดสิว ลบรอยย่น และจุดด่างดำบนใบหน้าได้ดีอีกด้วย
ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณมากมายดังที่กล่าวมาข้างต้น จึงเสมือนเครื่องบำรุงความงามที่ธรรมชาติให้มา และสารที่ออกฤทธิ์ในว่านหางจระเข้ยังซึมซาบเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ ว จึงมีผลในการบำรุงรักษาผิวได้ดีทุกวัน
แต่สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ให้ทำการทดสอบก่อนว่าใช้เนื้อวุ้นว่านได้หริอไม่ โดยมีวิธีทดสอบคือ ตัดเนื้อวุ้นว่านขนาด 3 ซ.ม. ปิดไว้ตรงแขนด้านใน (หรือทาที่ท้องแขนด้านใน) จากนั้นปิดทับด้วยผ้าก๊อซและกระดาษไข เพื่อให้เนื้อวุ้นติดอยู่ ถ้าไม่มีอาการแดงหรือคันในเช้าวันรุ่งขึ้น แสดงว่าใช้เนื้อวุ้นว่านได้


2.ขมิ้น

ขมิ้นชันเป็นพืชสมุนไพร และประโยชน์ของขมิ้นชันกับผิวนั้นไม่ได้แค่ต่อต้านหรือลดการอักเสบหรือรักษาสิวเท่านั้น แต่ยังใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัวเพื่อให้มีสีผิวกระจ่างขึ้นด้วยเมื่อใช้เป็นประจำและช่วยฆ่าเชื้อ ที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิดยังช่วยบำรุงให้สีผิวกระจ่างขึ้นด้วยเมื่อใช้เป็นประจำ ขมิ้นชันได้รับการยอมรับว่าช่วยลดการอักเสบและลดการระคายเคืองเมื่อนำมาใช้กับผิว อย่างที่รู้กันว่าสิวนั้นเกิดจากแบคทีเรีย P.acne ที่ทำให้เกิดการอักเสบหรือบวมแดงที่เราเห็น ซึ่งก็ได้มีการวิจัยว่าขมิ้นชันสามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ได้และสามารถผสมใช้ร่วมกับNeem oil, Tea Tree oil เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ยังมีการวิจัยอื่นที่บอกอีกว่าขมิ้นชันช่วยปรับสภาพผิวเพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่มีการผสมขมิ้นชันในเครื่องสำอางที่ขายตามท้องตลาดมากมาย 
สูตรวิธีรักษาสิวและทำให้หน้าใส
1 สูตรขมิ้นสด + ดินสอพอง + น้ำมะนาว
สูตรนี้ช่วยบำรุง: ผิวหน้าให้ผุดผ่องสดใสอ่อนวัย และช่วยให้สิวยุบเร็ว
ส่วนผสม
ขมิ้นสด (เล็กน้อย)
ดินสอพอง 2-3 เม็ด
มะนาว 1 ผล
วิธีทำ
นำขมิ้นสดมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ปั่นรวมกับดินสอพองและมะนาว จนละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้เนื้อครีมข้นและเหนียวใช้สำหรับนำมาพอกกับหน้าที่สะอาดแล้วก่อนเข้านอน โดยพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะรู้สึกผิวหน้าสดชื่นและเต่งตึงขึ้นด้วย ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3 - 4 ครั้งภายในเวลาไม่ถึงเดือนจะสังเกตเห็นว่าผิวหน้าดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงจนสามารถสังเกตได้มะนาว จะทำให้ผิวนวลเนียนขึ้นสามารถสัมผัสได้ และเมื่อผสมรวมกันกับผักแว่น ก็จะยิ่งทำให้ผิวหน้าดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2 สูตรดินสอพองผสมน้ำมะนาว หรือน้ำมะขามเปียก
สูตรนี้ช่วยบำรุง: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน รูขุมขนกว้าง และมีสิวเสี้ยน สูตรนี้สามารถเปลี่ยนจากน้ำมะนาวมาเป็นน้ำมะขามเปียกก็ได้ค่ะ
ผลที่ได้ : จะช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มขึ้น รูขุมขนกระชับ และความมันลดลง ให้ผลเร็ว 1-3 วันเห็นผลแน่นอน สิวแห้ง ยุบลง
ส่วนผสม
ดินสอพองสะตุ 3 - 4 เม็ดใหญ่
น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
วิธีทำ
นำดินสอพองสะตุมาบดละเอียดด้วยภาชนะที่สะอาด ผสมน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน (มันจะกลายเป็นครีมข้นๆ)
ดินสอพองจะพองตัวขึ้นและมีฟองอากาศ นั่นเพราะดินสอพองกำลังทำปฏิกิริยากับกรดในน้ำมะนาวนั่นเอง
จากนั้นทาครีมดินสอพองจนทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา หรือจะแต้มเฉพาะตรงที่หัวสิวก็ได้ค่ะ ทิ้งไว้ 15 - 20 นาทีหรือจะทาก่อนนอนทิ้งไว้จนเช้าก็ได้
วิธีล้าง
ให้ล้างด้วยน้ำอุ่น แล้วใช้ผ้าเช็ดเบา ๆ บริเวณที่มีสิวเสี้ยน
จากนั้นล้างอีกครั้งด้วยน้ำเย็นเพื่อกระชับรูขุมขน
ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง
3 สูตรผงขมิ้นผสมกับน้ำมะนาว
สูตรนี้ช่วยบำรุง: ก็เป็นอีกสูตรที่ใช้กันเยอะ โดยเฉพาะคนที่เป็นสิวเยอะมากบนใบหน้า พอลองใช้สูตรนี้แล้วพบว่า ช่วยลดอาการบวมแดงจากสิว สิวยุบเร็ว สิวและรอยสิวลดลง และหน้าเนียนขึ้นด้วย
วิธีทำ
ผสมผงขมิ้นชันกับน้ำมะนาว หรือถ้าอยากให้ข้นสามารถผสมกับน้ำมันต่างๆได้และแต้มที่สิวก่อนนอน หรือจะพอกทั่วทั้งใบหน้าก็ได้ ถ้าหากคุณเป็นสิวบนใบหน้าเยอะมาก โดยไม่ต้องล้างออก ทิ้งไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง หรือจนคุณทนไม่ได้เพราะเมื่อพอกแล้วมันจะรู้สึกแสบหน้าค่ะ แต่ถ้าทิ้งข้ามคืนได้จะดีมาก

4 สูตรผงขมิ้นผสมกับน้ำนม หรือน้ำผึ้ง
สูตรนี้ช่วยบำรุง: ช่วยให้สิวยุบเร็วและช่วยบำรุงผิวหน้าให้ผุดผ่องสดใสอ่อนวัย
ผลที่ได้ : ช่วยให้สิ้วเสี้ยนหลุด สมานผิวและรูขุมขนกระชับขึ้น ช่วยรักษาแผลที่เกิดจากสิวอักเสบ ไม่ให้เกิดเป็นแผลเป็น ทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม
วิธีทำ
ครีมขัดและพอกหน้า นำขมิ้นผงผสมกับน้ำนม หรือน้ำผึ้ง จากนั้นล้างหน้า ให้สะอาดแล้วนำขมิ้นที่เตรียมไว้ขัดใบหน้าเบา ๆ จนทั่วพอกไว้อย่างนั้นประมาณ 5 นาที ล้างออกได้ด้วยน้ำอุ่น ๆ
หรืออีกวิธี คือ ใช้เหง้าขมิ้นสดมาหั่นบาง ๆ แล้วตากแห้ง นำมาบดเป็นผงให้ละเอียดผสมกับน้ำนมทาตัวเอาไว้ก่อนจะอาบน้ำทิ้งไว้ 10 - 20 นาที เป็นอย่างน้อย แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือตามด้วยการอาบน้ำชำระร่างกาย ผลที่ได้รับคือ ช่วยให้ผิวนุ่มนวลเนียน แก้โรคผดผื่นคัน หรือจุดด่างดำบนร่างกายให้หายไป
5 สูตรขมิ้นชันสด
สูตรนี้ช่วยบำรุง: สำหรับคนที่ใช้ขมิ้นผงแล้วแพ้ เปลี่ยนมาใช้แบบสดดีกว่าค่ะ (เพราะเคยมีคนที่เกิดอาการแพ้ขมิ้นผง พอเปลี่ยนมาใช้แบบสดก็สามารถใช้ได้ไม่เกิดอาการแพ้ค่ะ)
ผลที่ได้ : ผิวเนียนขึ้น สิวอุดตัน สิวอักเสบ หายหมดค่ะ
วิธีใช้
- นำขมิ้นชันสดมาปลอกเปลือก แล้วนำไปปั่นแล้วเอาไปใส่กระปุกแช่ตู้เย็นไว้ค่ะ พอครบ 1 อาทิตย์ ก็ทำใหม่ค่ะ
- ใช้คอตต้อนบัด จิ้มๆ น้ำแล้วนำมาทาหน้า ก่อนล้างหน้า 10-15 นาที
- ควรใช้ตอนเย็น เพราะหน้าจะเหลือง ต้องล้างประมาณ 2 ครั้งถึงจะออกค่ะ
6 สูตรน้ำผึ้ง
น้ำผึ้งมีสรรพคุณลดการอักเสบ และติดเชื้ออยู่ด้วย และเร่งการสร้างเนื้อเยื่อใหม่น้ำผึ้งจึงใช้สมานบาดแผลชนิดต่างๆ
สูตรนี้ช่วยบำรุง: สูตรน้ำผึ้งนี้เหมาะสำหรับคนผิวแห้ง แพ้ง่าย มะนาวอาจจะทำให้เกิดความระคายเคืองและแห้งมากขึ้น สูตรนี้จึงใช้น้ำผึ้งที่มีคุณสมบัติสมานผิวเข้ามาแทนที่ และยังเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยน้ำมันงา
ส่วนผสม
ดินสอพองสะตุ 3 - 4 เม็ดใหญ่
น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/2 ช้อนชา
น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
นำดินสอพองสะตุมาบดละเอียด ผสมน้ำผึ้งและน้ำมันงา (หรือน้ำมันมะกอกก็ได้) คนให้เข้ากัน
น้ำมาพอกให้ทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา
ทิ้งไว้ 15 - 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
หลังล้างหน้าจะมีความมันของน้ำมันงาหลงเหลืออยู่บ้าง
หากไม่ชอบให้ล้างด้วยน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็น
7 สูตรน้ำนมขมิ้น
สูตรนี้ช่วยบำรุง: น้ำนมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น และบวกกับขมิ้นที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย แก้ผดผื่นคัน และบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งด้วย สูตรนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว
ส่วนผสม
ดินสอพองสะตุ 4 - 5 เม็ดใหญ่
นมสด 2 ช้อนชา
น้ำขมิ้น 1 ช้อนชา
วิธีทำน้ำขมิ้น
นำหัวขมิ้นมาล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นแว่นแล้วตำจนแหลก
ผสมน้ำเล็กน้อย กรองเอาน้ำด้วยผ้าขาวบาง
วิธีทำ
บดดินสอพองสะตุจนละเอียด แล้วคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน พอกหน้าทิ้งไว้ 15 - 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
8 สูตรขมิ้นแห้ง 25 กรัม + ว่านนางคำ 200 กรัม + ไพล 50 กรัม + ดินสอพอง 1000 กรัม
ส่วนผสม
นำขมิ้นแห้ง 25 กรัม + ว่านนางคำ 200 กรัม + ไพล 50 กรัม + ดินสอพอง 1000 กรัม
วิธีทำ
นำมาบดผสมกัน ใช้พอกหน้า และตัวเพื่อบำรุงผิวได้ (ถ้าผิวมันใช้ผสมกับน้ำมะกรูดเผาไฟ ถ้าผิวแห้ง ใช้ผสมกับน้ำผึ้ง หรือ นมสด) ควรพอกประมาณ 5 - 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยน้ำเย็น สลับกัน
9 สูตรดินสอพอง ผสมกับขมิ้น
ขมิ้น มีสรรพคุณ ฆ่าเชื้อโรคอ่อน ๆ มันก็สามารถบรรเทาอาการสิวคุณได้
วิธีทำ
 นำดินสอพองมาผสมกับผงขมิ้น คนให้เข้ากัน แล้วนำมาแต้มที่หัวสิว แต่ถ้าจะเอามาพอกหน้า ควร ลด ขมิ้นผงลง เพราะคุณอาจจะกลายเป็น ดีซ่านได้
10 ดินสอพอง ผสมกับไพล
ไพล เป็น ญาติกับ ขมิ้น แต่ไพล มีสีเหลืองนวล อ่อนกว่า ขมิ้นมีสรรพคุณช่วย บำรุงผิว ลดอาการระคายเคือง วิธีทำ นำดินสอพองมาผสมกับไพล คนให้เข้ากัน แล้วนำมาแต้มที่หัวสิว
วิธีทำ
นำดินสอพองมาผสมกับไพล คนให้เข้ากัน แล้วนำมาแต้มที่หัวสิว หรือนำไปพอกหน้าก็ได้หวังว่าบทความนี้ คงจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย สำหรับผู้ที่กำลังประสบกับปัญหาสิว และมองหาวิธีรักษาสิวแบบธรรมชาตินะค่ะ

9สูตรวิธีรักษาสิว
1. ดินสอพองผสมน้ำมะนาว หรือน้ำมะขามเปียก
สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน รูขุมขนกว้าง และมีสิว
 ส่วนผสม
ดินสอพองสะตุ 3 - 4 เม็ดใหญ่
น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
วิธีทำ
นำดินสอพองสะตุมาบดละเอียดด้วยภาชนะที่สะอาด ผสมน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน (มันจะกลายเป็นครีมข้นๆ)
ดินสอพองจะพองตัวขึ้นและมีฟองอากาศ นั่นเพราะดินสอพองกำลังทำปฏิกิริยากับกรดในน้ำมะนาวนั่นเอง
จากนั้นทาครีมดินสอพองจนทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา หรือจะแต้มเฉพาะตรงที่หัวสิวก็ได้ค่ะ ทิ้งไว้ 15 - 20 นาทีหรือจะทาก่อนนอนทิ้งไว้จนเช้าก็ได้
วิธีล้าง
ให้ล้างด้วยน้ำอุ่น แล้วใช้ผ้าเช็ดเบา ๆ บริเวณที่มีสิว
จากนั้นล้างอีกครั้งด้วยน้ำเย็นเพื่อกระชับรูขุมขน
ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง
ผิวหน้าจะเนียนนุ่มขึ้น รูขุมขนกระชับ และความมันลดลง สูตรนี้สามารถเปลี่ยนจากน้ำมะนาวมาเป็นน้ำมะขามเปียกก็ได้ค่ะ ให้ผลเร็ว 1-3 วันเห็นผลแน่นอน สิวแห้ง ยุบลง
 2. น้ำผึ้ง
อุ่นน้ำผึ้งเล็กน้อย และทาลงบริเวณที่มีปัญหา 10-15 นาที แล้วล้างออก น้ำผึ้งเป็นวิธีที่รู้จักกันดีและมีประสิทธิภาพอย่างมากในการกำจัดสิว
 3. ไข่ขาว ผสมน้ำผึ้งและน้ำมะนาว
 ส่วนผสม
ไข่ขาวขนาดเล็ก 1 ฟอง น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ และกระดาษซับมัน
วิธีทำ
ตอกไข่ใส่จาน แล้วช้อนเอาไข่แดงออก เอาเฉพาะไข่ขาว จากนั้นนำไข่ขาว น้ำมะนาว และน้ำผึ่งมาผสมให้เข้ากันดี จากนั้นล้างหน้าให้สะอาด ซับให้แห้ง
นำไข่ขาวที่เตรียมไว้มาทาบริเวณจมูก แล้วนำกระดาษซับมันมาแปะลงบริเวณที่ทาไข่ขาวไว้ ใช้นิ้วมือกดเบาๆ ให้กระดาษซับมันกระชับผิว
นอนราบกับพื้นรอจนไข่ขาวแห้งสนิท หน้าจะตึงมากๆ จากนั้นใช้มือลอกกระดาษซับมันจากล่างขึ้นบน สิวเสี้ยนก็จะติดออกมากับกระดาษซับมัน แล้วล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด เพื่อกระชับรูขุมขน ควรทำสัปดาห์ละครั้ง
 4. ทาน้ำมะนาว
ทาน้ำมะนาวโดยตรงบนสิววันละ 2-3 ครั้ง น้ำมะนาวมีกรดผลไม้ AHA หรือ Alpha Hydroxy Acids ทำงานโดยการลอกเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว และช่วยให้เซลล์ผิวใหม่ที่อยู่ด้านล่างได้ผลัดขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ยังช่วยชำระรูขุมขนทำให้รูขุมขนตึงขึ้น ช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น และทำให้มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวน้อยลง

วิธีทำ
ล้างหน้าให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเช็ดหน้าที่สะอาดเบาๆ จากนั้นบีบน้ำมะนาว 1 ช้อนชาในถ้วยเล็ก ใช้สำลีจุ่มน้ำมะนาวพอเปียก อาจผสมน้ำหากรู้สึกว่าแสบเกินไป ป้ายน้ำมะนาวลงบนสิว สิวหัวขาว สิวหัวดำ สิวหัวหนอง
ทิ้งไว้ทั้งคืนโดยไม่ต้องล้างออก ล้างออกตอนเช้า และทาอีกครั้งก่อนเมคอัพ (หากคุณต้องใช้เมคอัพ)
**หากรู้สึกว่าน้ำมะนาวนั้นแรงเกินไป แม้ว่าจะผสมน้ำให้เจือจางแล้วก็ตาม ให้ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
วิธีการนี้ใช้เวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำจึงจะเห็นผล
 5. ดื่มน้ำมะนาว
ความจริงแล้วการรักษาสิวด้วยการดื่มน้ำมะนาวนั้นมีประโยชน์หลายอย่าง ที่ทุกคนควรดื่ม (สำหรับคนที่ไม่แพ้มะนาว) ประโยชน์ต่าง ๆ เหล่านั้นคือ : สามารถใช้วิธีการดื่มน้ำมะนาวเพื่อรักษาและทำความสะอาดภายในร่างกาย หรือขจัดสารพิษออกจากตับ และเพื่อให้การดูดซึมแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย น้ำมะนาวนั้นเป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรณ ที่ช่วยให้กระชุ่มกระชวย (เพราะในน้ำมะนาวมีแร่ธาตุต่าง ๆ วิตามินซี, โพแทสเซียม) ดื่มง่าย และทำได้ง่าย นอกจากนี้ ยังช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องผูก และช่วยกำจัดนิ่วในไต และตับอ่อนด้วยค่ะ
 รักษาสิว โดยการดื่มน้ำมะนาว สูตร 1
บีบน้ำมะนาว 1 ผลลงในแก้ว แล้วเติมน้ำเปล่าอีก 2 ถ้วย (ถ้วยละ 8 ออนซ์)
ดื่มน้ำมะนาวที่ผสมนี้ได้ทั้งวัน
รักษาสิวโดย การดื่มน้ำมะนาว สูตร 2
บีบน้ำมะนาว 1 ผล ผสมกับน้ำอุ่นที่ต้มแล้ว 1 ถ้วย (8 ออนซ์)
ดื่มเป็นสิ่งแรกของวัน ในตอนเช้า
หลังจากดื่มน้ำมะนาว งดการดื่ม หรือรับประทานสิ่งใด ๆ ภายในครึ่งชั่วโมง เพื่อให้น้ำมะนาวได้ชำระล้างร่างกาย
***** ผลการรักษาสิว ได้มีการทดลองใช้น้ำมะนาวทั้งสองวิธีแล้วคือ ทาโดยตรงบนผิวหน้าและดื่มพบว่า ภายใน 3 สัปดาห์สิวก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
 6. เบกกิ้งโซดาและน้ำ
ผสมเบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 3 ช้อนโต๊ะ ถูส่วนผสมนี้ลงบนผิวสองสามนาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น มันจะกำจัดสิวเสี้ยนออกอย่างมีประสิทธิภาพ

 7. มาส์กข้าวโอ๊ตกับกุหลาบ
ทรีตเมนต์นี้ช่วยกำจัดสิวหัวดำที่คุณมีอยู่แล้ว และป้องการเกิดขึ้นใหม่อีก วิธีการคือผสมข้าวโอ๊ตบดละเอียดกับน้ำกุหลาบให้เป็นส่วนผสมข้น ๆ ทาส่วนผสมลงบนหน้าบริเวณที่เป็นปัญหาทิ้งไว้ 15 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำเย็น ซึ่งจะช่วยปิดรูขุมขนที่เพิ่งทำความสะอาดมาใหม่ๆ ป้องกันการเกิดสิวหัวดำต่อไป
 8. มันฝรั่ง
มันฝรั่งดิบสับละเอียดสามารถใช้รักษาปัญหาผิวได้หลายอย่างรวมทั้งสิวหัวดำ โดยพอกมันฝรั่งลงบนผิวที่เป็นปัญหาโดยตรง ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออก ล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาด

9. หอมแดง
หอมแดง มีสรรพคุณช่วยในการรักษาสิว ลบรอยด่างดำที่เกิดจากสิวได้ เพราะในหอมแดงสดจะประกอบไปด้วยน้ำมันหอมระเหยและสารต่าง ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติมากมาย เช่น ลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยเจริญอาหาร และช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของสิว

 วิธีทำ คือ นำหัวหอมแดงสดนำมาฝานเป็นแว่นบาง ๆ เพื่อให้สะดวกในการแปะที่หัวสิวของคุณ หรือจะทุบเบา ๆ แตะน้ำที่ซึมออกมาจากหัวหอมนำมาทาบาง ๆ บริเวณที่เป็นสิวหรือรอยจุดด่างดำ ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง หรือจนคุณทนกลิ่นมันไม่ได้ แต่ถ้าทิ้งข้ามคืนจะดีมากๆ ช่วยทำให้สิวลดลงได้จริงๆ
กินอย่างไรไม่เป็นสิว
1. เพิ่มโอเมก้า 3 ด้วยน้ำมันตับปลา
   เริ่มต้นด้วยการเสริมโอเมก้า 3 ให้ร่างกาย กรดไขมันที่มีประโยชน์นี้ช่วยให้เซลล์แข็งแรง ต่อต้านอาการอักเสบได้ดี จึงทำให้อาการของการอักเสบของสิวทุเลาลง ทั้งยังบรรเทาอาการแดงและระคายเคือง ทำให้ผิวหนังกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้นผิวจึงไม่แห้งกร้าน ทำให้สิวที่กำลังเป่งหายเร็วขึ้นด้วย นอกจากนี้มันยังช่วยในการผลิตฮอร์โมนอารมณ์ดีของร่างกาย ที่ไม่เพียงทำให้จิตใจแจ่มใสเบิกบาย แต่ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องตามไปด้วยนะคะ
  โดยคุณสามารถได้โอเมก้า 3 จากการกินปลา ซึ่งควรบริโภคสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง หรือเพื่อความสะดวกจะกินน้ำมันปลาในรูปอาหารเสริมแทนก็ได้ค่ะ
2. ลดหวาน
น้ำตาลเป็นอีกหนึ่งตัวการของการเกิดสิว ไม่ว่าจะมาในรูปของน้ำตาลที่เราใช้ปรุงอาหาร หรือมาจากอาหารที่มีความหวานอยู่แล้วในตัว ถึงแม้จะเป็นความหวานจากธรรมชาติอย่างผลไม้ต่าง ๆ ก็ตาม 
   ในช่วง 2 สัปดาห์นับจากนี้ คุณจึงควรลดการบริโภคความหวานเสีย เพราะความหวานเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะมีสภาพเป็นกรด ทำให้เซลล์เกิดการอักเสบได้ง่าย จึงไม่ดีกับผิวที่เป็นสิวแน่ ๆ แถมยังส่งผลเสียกับระบบฮอร์โมนอีกต่างหาก เมื่อบริโภคหวานมากไป อินซูลินจะถูกหลั่งออกมามากขึ้น และอินซูลินที่ไหลพรั่งพรูก็จะไปกระตุ้นฮอร์โมนอื่น ๆ ให้หลั่งออกมาผิดปกติอีกเช่นกัน โดยหนึ่งในนั้นคือฮอร์โมนแห่งความเครียด ที่เมื่อคุณเครียดแล้วสิวก็จะผุดตามออกมาเป็นผลพวงพ่วงมาอีกนั่นเองค่ะ เห็นผลเสียที่น้ำตาลให้กับร่างกายคุณมากขนาดนี้แล้ว อย่างงี้จะไม่ลดการกินหวานได้ยังไงกันล่ะคะ

กินดีรักษาสิว
   3. ลด-เลี่ยงแป้งขัดขาว
   อาหารประเภทแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตส่งผลต่อผิวพรรณของคุณไม่ต่างไปจากน้ำตาล เพราะเมื่อคุณกินเข้าไป มันก็จะถูกย่อย และเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้นได้ โดยคาร์โบไฮเดรตแต่ละประเภทก็จะเพิ่มระดับน้ำตาลในเส้นเลือดในอัตราต่าง ๆ กัน ตามดัชนีชี้วัดที่เรียกว่า ไกลเซมิก อินเดกซ์ (Glycemic index) ซึ่งมีค่าที่ 1-100 โดยแป้งขัดขาวนั้นถูกจัดให้มีดัชนีไกลเซมิกสูงถึง 100 เลยทีเดียว และยิ่งดัชนีตัวนี้สูง ก็ยิ่งส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเส้นเลือดมาก ส่งผลกระทบต่อไปยังเรื่องเซลล์ที่จะอักเสบง่าย และผิวพรรณที่มีปัญหาสิวอยู่แล้วทรุดลงกว่าเดิม เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้สิวหายเร็วหายไว ก็ต้องเลี่ยงและลดการบริโภคแป้งขัดขาวด้วยนะคะ ไม่ว่าจะมาในรูปข้าว ขนมปัง หรือธัญพืชก็ตาม
 4. กินผักใบเขียวเยอะ ๆ
  ผักใบเขียวมีทั้งคลอโรฟิลและวิตามินเออยู่เพียบ ซึ่งนอกจากดีต่อร่างกายแล้วยังมีประโยชน์ต่อผิวมาก ๆ ทั้งต่อต้านสิว ริ้วรอย การอักเสบของผิว รวมทั้งทำให้ผิวแข็งแรงทนต่อแสงแดดที่มาทำร้ายได้ดีขึ้น ลองเพิ่มสลัดถ้วยเล็ก ๆ เป็นเครื่องเคียงของทุกมื้อ ใส่มันลงในไข่เจียว ปั่นรวมกับสมูธตี้ เท่านี้คุณก็กินผักเพิ่มขึ้นได้ง่าย ๆ แล้วล่ะ
 5. กินโปรตีนดี ๆ

          โปรตีนช่วยให้สิวคุณหายได้ไวขึ้น ด้วย 2 คุณสมบัติเด่น ๆ ประการแรกคือ มันช่วยรักษาสมดุลของดัชนีไกลเซมิก จึงไม่ทำให้ร่างกายรู้สึกโหยหรือเพลีย จนเผลอซัดขนมหวาน ๆ เติมเข้าไปให้ตัวเองรู้สึกสดชื่นและได้น้ำตาลมาบ่อนทำลายผิวอีก ส่วนประการที่สองนั้น ก็เพราะโปรตีนช่วยซ่อมแซมและเพิ่มความแข็งแรงของเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้สิวทุเลาไว แผนจากสิวหายได้เร็วขึ้น อีกทั้งคอลลาเจนในผิวของคุณก็เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งเหมือนกันนะ กินโปรตีนไปช่วยเสริมโปรตีนแบบนี้ ผิวจะได้สวยเต่งตึงยืดหยุ่นด้วยไงล่ะ
โปรตีนดี ๆ ที่สาว ๆ กินได้หายห่วง ก็คือโปรตีนที่ได้จากพืช เช่น ผักโขม สาหร่ายสไปรูลินา ถั่วบางชนิด รวมไปถึงกรีกโยเกิร์ต ส่วนโปรตีนที่ได้จากสัตว์ก็เห็นจะเป็นไข่ขาวจากไข่ต้ม ส่วนโปรตีนจากเนื้อนั้นสามารถกินสลับ ๆ กันไปได้ โดยเน้นเนื้อที่ไม่ติดมันจะดีที่สุด


กินดีรักษาสิว
  6. เติมแบคทีเรียดี ๆ ให้ลำไส้
  เคยได้ยินกันไหมคะว่าลำไส้ของเราเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียตั้งไม่รู้กี่ล้านตัว แต่แบคทีเรียนี้ก็มีทั้งที่ดีและไม่ดี แบคทีเรียตัวดี ๆ ก็ช่วยย่อยช่วยในการขับถ่าย ส่วนตัวร้าย ๆ ก็ปล่อยของเสียออกมาให้ร่างกายดูดซึมผ่านผนังลำไส้ใหญ่เข้าไป แล้วก็จะไปเผยผลเสีย ๆ หาย ๆ ที่ผิวพรรณของเราก่อนเป็นอันดับแรก กรณีนี้ก็เช่นเเดียวกับสาว ๆ ที่ขับถ่ายดีมีผิวพรรณสดใส ส่วนใครที่ท้องผูกบ่อย ลำไส้แปรปรวน ก็มีผิวพรรณที่หมอง แถมยังหน้าเป็นสิวอีกต่างหาก
 การกินของคุณมีส่วนสำคัญที่สุดที่จะกำหนดได้ว่าในลำไส้ของคุณจะมีแบคทีเรียแบบไหน ถ้าอยากให้สิวหายไวก็ต้องเติมแบคทีเรียที่ดีเข้าไป ซึ่งคุณจะได้แบคทีเรียที่ดีจากอาหารอย่างโยเกิร์ต นมเปรี้ยว มิโสะ กิมจิ ของดอง (ที่คุณดองเองจริง ๆ ไม่ใช่ของดองที่ขายตามในซูเปอร์มาร์เก็ต) เพียวโกโก้ ฯลฯ เป็นต้นค่ะ   
7. กินผักให้มาก
 ไม่ใช่แค่เน้นกินแต่ผักใบเขียวเท่านั้น คุณยังต้องเผื่อแผ่การบริโภคไปถึงผักสีต่าง ๆ ชนิดอื่น ๆ ด้วย ร่างกายจะได้รับวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน ทั้งวิตามินเอ บี ซี และเค
 ทั้งนี้วิตามินเคที่พบได้ในผักกาดหอม ช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือด ผิวพรรณจึงดูเปล่งปลั่งขึ้นได้ ส่วนแครอท มันเทศ ฟักทอง ซึ่งอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ก็ช่วยต่อต้านสิวได้เหมือนกันนะ ยารักษาสิวอย่างแอคคิวเทนที่จริงแล้วก็เป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบเบต้าแคโรทีนนะ ฉะนั้นกินให้ได้เบต้าแคโรทันจากผัก สิวก็จะหายได้ ในราคาที่ถูกกว่ากันเยอะเลย

กินดีรักษาสิว
  8. ดื่มชาเขียวชนิดไร้คาเฟอีน
 ชาเขียวมีประโยชน์กับร่างกายเหลือล้น อย่างที่ใคร ๆ ก็รู้ว่ามันมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่เต็มเปี่ยม ช่วยต่อต้านสิวและการอักเสบได้ดีสุด ๆ การดื่มชาเขียวเป็นประจำทุกวันจึงดีกับผิวพรรณของคุณอย่างไม่ต้องสงสัย เว้นเสียแต่คาเฟอีนที่ได้จากชากลับทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง คุณจึงรู้สึกเพลียและอยากอาหารหวาน ๆ ซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้เผลอฟาดขนมนมเนยเข้าแบบลืมควบคุมตัวเอง เพราะฉะนั้นมารับประโยชน์จากชาเขียวเต็ม ๆ แบบไม่มีคาเฟอีนมาเกี่ยว ด้วยชาเขียวชนิดไร้คาเฟอีนดีกว่า (Decag  green tea) และอย่าลืมดื่มเพียว ๆ แบบไม่เติมน้ำตาลด้วยนะ
 9. ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ บีบน้ำมะนาวผสมในน้ำด้วย
           การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำให้เป็นนิสัย และถ้าเป็นไปได้ลองบีบน้ำมะนาวเพิ่มลงไปในน้ำที่คุณดื่มดูด้วยสิ น้ำมะนาวช่วยดีทอกซ์ร่างกายโดยรวม โดยเฉพาะที่ตับซึ่งเป็นอวัยวะที่กรองสารพิษออกจากร่างกาย ถ้าระบบภายในดี ผิวพรรณที่อยู่ด้านนอกก็จะดีตามไปด้วยได้ไม่ยาก นอกจากนี้มันยังเต็มไปด้วยวิตามินซีที่ทำให้ผิวสุขภาพแข็งแรง และช่วยให้ผิวซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น ผิวที่เป็นสิวจึงดีวันดีคืนหากคุณได้ดื่มน้ำผสมน้ำมะนาวทุกวันนั่นเองค่ะ

         ปัญหาสิวรักษาได้ใน 2 สัปดาห์ด้วยการกิน จากสิวที่จะปะทุหรือกำลังเป่ง ๆ ก็แห้งลง แต่ทางที่ดี คุณก็ควรจะปรับเปลี่ยนนิสัยการรับประทานอาหารให้เป็นเช่นนี้ตลอดไป ถ้าทำได้ล่ะก็ร่างกายจะดีจากภายในสู่ผิวพรรรภายนอก ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ อยู่ในวัยไหน ก็ไม่ต้องกังวลกับปัญหาสิวอีกเลยล่ะค่ะ

สร้างเว็บบล็อก  (Blogger)
      1.  เข้าไปที่ http://www.blogger.com/   จะเจอหน้าจอแบบนี้ ให้คลิกที่ สร้างเว็บบล็อกของท่านเดี๋ยวนี้


2.  เมื่อท่านคลิกนี้

3. ให้ใส่รายละเอียดดังรูป
               -ที่อยู่อีเมล : (จากที่ท่านได้สมัคร Gmail)
               -Enter Password : (ใส่รหัสผ่าน)-พิมพ์รหัสผ่านอีกครั้ง
               -Displya name (ตั้งชื่อที่จะให้แสดงตอนโพสเว็บบล็อก)
               -พิมพ์ตามอักษรที่ปรากฎให้ถูกต้อง
                -คลิกดำเนินต่อไป
    4.  จากนั้นให้ตั้งชื่อ เว็บบล็อกของท่าน
              -คลิกที่ตรวจสอบ เพื่อตรวจเช็คดูว่า มีใครใช้ชื่อนี้ไป หรือยัง ถ้ามีแล้วระบบจะแจ้งเตือนว่าใช้ไม่ได้       และจะมีตัวเลือกให้เราโดยอัตโนมัต ถ้าชอบใจตัวไหน ก็คลิกที่ชื่อด้านล่างตัวนั้นได้ แต่ถ้าต้องการชื่ออื่นอีกก็ตรวจสอบจนกว่าจะได้ชื่อที่คุณพอใจ เมื่อได้ชื่อตามที่ต้องการแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อไป
   5.  จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกแม่แบบว่า เราต้องการเว็บบล็อกรูปแบบไหน มีให้เลือกมากมายตาม  ต้องการสามารถคลิกเพื่อดูตัวอย่างแม่แบบได้ เมื่อได้แม่แบบตามที่เราชอบแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อไปถึงตอนนี้คุณก็จะมีบล็อกกับกูเกิลแล้ว  อย่าลืมจดจำคือ
           1  อีเมลล์ของ gmail
           2  URL เว็บบล็อก
 บทที่3
วิธีการดำเนินโครงงาน
      3.1  โปรแกรมที่ใช้ในการทำโครงงานบทที่3
            3.1.1  โปรแกรม Power Point
            3.1.2  โปรแกรม Microsoft Word 2007
            3.1.3   เว็บไซต์ที่ให้บริการคือ http://www.blogger.com/ 
            3.1.4  เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารคือ www.facebook.com  , www.gmail.com ,   www.google.com
3.2 วิธีการดำเนินโครงงาน


ลำดับที่   กิจกรรม ระยะเวลาในการดำเนินโครงงาน
                1              กำหนดชื่อโครงงาน                                                                                                                          
                2              กำหนดวัตถุประสงค์โครงงาน                                                                                                                        
               3              กำหนดขั้นตอนในการทำโครงงาน                                                                                                                
               4              สืบค้นข้อมูลเพื่อจำทำโครงงาน                                                                                                                   
                   5              จัดทำโครงงาน                                                                                                                    
              6              ลงมือทำโครง งาน                                                                                                                              
              7              การเขียนรายงาน                                                                                                                         8              การนำเสนอและแสดงผลงาน                                                                                                                         
บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
             4.1) ผลการดำเนินงาน
   คณะผู้จัดทำสามารถดำเนินการได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีโดยการวางแผนวิธีดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน และมีการนำเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตมาใช้ในการทำโครงงาน เช่น
1.การรวบรวมข้อมูลเรื่องปัญหาของคนเป็นสิว จากทางอินเตอร์เน็ต
2.การศึกษาวิธีการสร้างเว็บบล็อกเพื่อใช้เป็นสื่อในการเผยแพร่ความรู้เรื่องปัญหาของคนเป็นสิว จากทางอินเตอร์เน็ต
บทที่ 5
สรุป   อภิปรายและข้อเสนอแนะ
วัตถุประสงค์ของโครงงาน
       1.   เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก เรื่องปัญหาของคนเป็นสิว
        2.  เพื่อเป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
       3.  เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป
  วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ โปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนา 

            2. โปรแกรม Microsoft Word 2007
            3.  เว็บไซต์ที่ให้บริการคือ http://www.blogger.com/ 
            4.   เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารคือ www.facebook.com  , www.gmail.com ,   www.google.com

สรุปผลการดำเนินงานโครงงาน
     จากการดำเนินงานโครงงานการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ปัญหาของคนเป็นสิวในครั้งนี้สรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้
       ทำให้ได้เว็บบล็อกเรื่องปัญหาของคนเป็นสิว เป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งทำให้เกิดประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป  
อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนา
        1.  เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอกับการทาโครงงาน และบางครั้งอินเทอร์เน็ตมีปัญหา
        2.  สมาชิกในกลุ่มบางคนให้ความร่วมมือน้อยเพราะไม่ค่อยใส่ใจกับโครงงานนักจึงทำให้เสียเวลาและทำให้โครงงานเสร็จช้า
        3.ไม่ค่อยมีความรู้กี่ยวกับblogger
ภาคผนวก
 ที่อยู่เว็บบล็อกของผู้จัดทำ
http://301loveforever.blogspot.com/
บรรณนานุกรม